16/3/57

ประวัติหลวงพ่อคง ฐิวิริโย เจ้าอาวาสวัดเขากลิ้ง ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี





พระครูถาวรวิริยคุณ หรือที่ลูกศิษย์รู้จักกันในนามหลวงพ่อคง ฐิวิริโย เจ้าอาวาสวัดเขากลิ้ง ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ท่านเกิดที่บ้านพลับน้อย ต.ท่าทราย อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรึ เมื่อวันพุธที่ ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๖ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๙ ปีกุน
โยมพ่อชื่อนายคุ้ม โยมมารดาชื่อนางแม้น นามสกุล แก่นไม้ทอง
มีพี่น้อง ๔ คน
๑.นายเคิ้ม แก่นไม้ทอง
๒.หลวงพ่อคง ฐิวิริโย
๓.นางสาคร แก่นไม้ทอง
๔.นางอัมพร แก่นไม้ทอง
เด็กชายคง พ่อ-แม่ มีอาชีพค้าขาย ท่านเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายไม่ดื้อ เชื่อฟังพ่อ-แม่ ท่านมีอายุ ๖ ขวบ จึงขอลาพ่อ-แม่ ติดตาม "ตาผล" มาอยู่กับกับย่าที่ จ.เพชรบุรี
โดยมาอยู่กับ พ.ต.ต.จิตต์ ซึ่งเป็นญาติกับที่บ้านกุ่ม อ.เมือง จ.เพชรบุรึ ย่าพล้อยได้นำไปฝากให้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศ จ.เพชรบุรี
จนเรียนจบประถมศึกษาปีที่ ๔ จึงไปเป็นเด็กวัดอยู่ที่ วัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรึ ท่านได้ศึกษาธรรมะกับท่านเจ้าอาวาส หลังจากที่อยู่กับเจ้าอาวาสวัดปากท่อได้สักระยะหนึ่ง
จนกระทั้งย่าพล้อยได้เสียชีวิตลง จึงได้มาอยู่กับตาผล ตาผลส่วนมากแล้วคนทั่วๆไปมักเรียกท่านว่าอาจารย์ผล เพราะท่านเป็นผู้ที่ชอบเรียนวิชาอาคมกับอาจารย์ดังๆมากมาย
ชอบเล่นวิชาไสยเวทย์ตัวแกมีวิชาอาคมขลังหนังเหนียว คงกระพันชาตรี อาจารย์ผลท่านเป็นเพื่อนกับ หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
หลวงพ่อคงติดตามอาจารย์ผลไปพบหลวงพ่อทองสุขแล้ว และท่านก็ยังให้ความเมตตาหลวงพ่อคงอย่างมาก จึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใส
จึงคิดอยู่ในใจตลอดว่า....อยากจะบวชบ้าง จากนั้นมาหลวงพ่อทองสุขเลยทำพิธีครอบครูให้ โดยเริ่มการสอนให้เขียนอักขระเลขยันต์และวิธีการทำตะกรุด
ตลอดจนวิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล นายคงมีอายุครบ ๒๐ ปีบริบรูณ์ ก็ได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ที่วัดสนามพราหมณ์ จ.เพชรบุรี โดยมีหลวงพ่อเดช เจ้าอาวาสวัดสนามพราหมณ์ เป็นพระอุปัชณาย์
ท่านบวชได้ ๑ พรรษา ครั้นเมื่อสึกออกมาแล้วก็เลยไปพักร่มเงาชายคาอยู่กับอาจารย์ผล ก็บังเอิญได้เจอเนื้อคู่อยู่ที่ บ้านโงหีบ ต.ท่ากระเทียม อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
มีบุตรด้วยกันทั้งหมด ๔ คน นายคงใช้ชีวิตฆราวาสแบบมีน้ำใจ ประกอบอาชีพค้าขายดูแลครอบครัว ใช้ชีวิตแบบไม่เบียดเบียนใครแบบเศรษกิจพอเพียง เมื่อท่านใช้ชีวิตครองเรือนมาได้ระยะหนึ่ง
เมื่อไม่มีภาระอะไรที่น่าเป็นห่วงอีก จึงมีความรู้สึกคิดอยากจะบวช เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงปรึกษาภรรยา ซึ่งภรรยาก็คัดค้านในตอนแรก แต่เมื่อมองเห็นความตั้งใจจึงยอมอนุโมทนา
ในกุศลที่จะบังเกิดขึ้นเมื่อท่านได้บวชเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มาพำนักจำพรรษาอยู่ที่ วัดวิบูลย์ประชาสรรค์(วัดท่ากระเทียม) ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
แทนเจ้าอาวาสได้เป็นอย่างดีในทุกๆเรื่อง จนชาวบ้านเองก็รักใคร่ให้ความศรัทธาตลอดมา แต่ด้วยความที่ท่านชอบความสงบและเป็นพระที่ชอบปลีกวิเวกอยากจะออกธุดงค์
ไปหาที่สงบจนได้จิตสงบถือจิตเมตตา เป็นที่ตั้งในการเดินทางครั้งนี้ถึงแม้จะต้องเจออุปสรรคมากมาย ทั้งไข้ป่า ไข้มาเลเรีย หลวงพ่อคงท่านเดินไปเรื่อยๆจนถึง
บ้านตอไม้แห้งซึ่งชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน ที่นั้นอาศัยอยู่แบบชาวเขา คือปลูกข้าว พืชผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เลี้ยงวัวเป็นอาหาร เมื่อหลวงพ่อคงธุดงค์ไปถึงบ้านตอไม้แห้ง
ชาวบ้านที่นั้นเห็นเข้าก็ดีใจที่มีพระธุดงค์เดินผ่านมา ก็เลยอาราธนานิมนต์ให้ท่านอยู่พักปักกลดที่หมู่บ้าน  พอรุ่งเช้าท่านก็มาหยุดยืนนิ่ง
เมื่ออยู่ๆมีลมพัดหมุนรอบๆตัวท่าน ขณะนั้นเป็นเวลาเที่ยงพระอาทิตย์ส่องแสงครงศรีษะพอดี แดดร้อนจ้ามาก แต่ลมที่เกิดขึ้นนั้นน่าอัสจรรย์มากเย็นยะเยือกมากระทบกายเหมือนโดนความเย็นจากน้ำแข็ง
คืนนั้นเองที่ท่านได้นิมิตรฝันไปว่า มีเทวดาน้อยใหญ่นั่งประทับช้างเผือก ๖ เชือกเข้ามาหาท่าน แล้วก้มลงกราบและพูดขึ้นว่า "ท่านทำได้ ท่านมีบารมีมาก ท่านทำสำเร็จด้วยขออารธนาท่านอยู่สร้างวัดด้วย"
พูดจบเหล่าเทวดาก็หายไป วันนั้นชาวบ้านทุกคนช่วยตัดหญ้า ตัดไม้ไผ่ ทำเป็นที่พักชี่วคราวให้ท่าน เพื่อกันแดด กันลมฝน ชาวบ้านอ้อนวอนขอให้ท่านอยู่ที่นี่ ท่านก็เลยไม่ปฎิเสธไม่อยากขัดศรัทธาญาติโยม
จึงได้อยู่ที่นั้นมาโดยตลอดหลายปีผ่านไปทางราชการได้ทำการตัดถนนเส้นหลักสู่แก่งกระจานเป็นถนนลูกรังมีชาวบ้านขึ้นไปอยู่อาศัยมากมาย หลายหมู่บ้านต่างจับจองที่ดินทำกิน มีโรงเรียนเกิดขึ้น
โดยมีตำรวจตระเวนชายแดนมาเป็นครูผู้สอน จากนั้นทางราชการได้แบ่งสรรปันส่วนที่ดินผืนป่า
เสื่อมโทรมเพื่อให้ชาวบ้านได้ทำกิน จึงมีหมู่บ้านเขากลิ้งขึ้น ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ชาวบ้านทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า จะยกที่ดินผืนนั้นทั้งหมดถวายหลวงพ่อเพื่อสร้างวัดอย่างถาวร
จะได้เป็นสถานที่ทำบุญทางศาสนาสำหรับผู้คนที่นี้

ไม่มีความคิดเห็น: