16/3/57

ประวัติพระครูฌานวัชราภรณ์ หลวงพ่อ ห่วย จกฺกวโร เจ้าอาวาสวัดห้วยทรายใต้


พระครูฌานวัชราภรณ์ (หลวงพ่อ ห่วย จกฺกวโร)
เดิมนายห่วย มีนามสกุลประมงกิจ เกิดวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2479 วันอาทิตย์ เดือนอ้าย ปีชวด ปัจจุบันอายุ 76 ปี บิดานายก่วง มารดานางโทน บ้านบางเก่า ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี การศึกษาจบชั้นประถมปีที่ 4
    หลวงพ่อห่วย อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2499 ณ วัดโตนดหลวง ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญและมีชื่อเสียง! หลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต (พระครูพินิจสุตคุณ) เป็นเจ้าอาวาสและเป็นพระอุปัชฌาย์


  เดิมชื่อ ห่วย นามสกุล ประมงกิจ
เกิด ๓ ฯ๖ ๑๑ ค่ำ ปีชวด ตรงกับวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2479
บิดา นายก่อง ประมงกิจ มารดา นางทน ประมงกิจ
ณ บ้านบางเก่า ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
          อุปสมบทเมื่อ อายุ 21 ปี ในวันที่ ๕ ฯ๑๕ ๗ ปีวอก วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2499
ณ วัดโตนดหลวง ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
พระอุปัชฌาย์                   คือ พระครูพินิจสุตคุณ(หลวงพ่อทองสุข)        วัดโตนดหลวง
พระกรรมวาจาจารย์       คือ พระครูวชิรรังษี(หลวงพ่อจันทร์)              วัดมฤคทายวัน
พระอนุศาสวนาจารย์      คือ พระครูพินิจสมณคุณ(หลวงพ่อหล่อ)        วัดหนองศาลา
          วิทยาฐานะ พ.ศ. 2492 สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนประชาบาลบ้านบางเก่า ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
พ.ศ. 2501 สอบได้นักธรรมโท จากสำนักเรียนวัดโตนดหลวง ตำบลบางเก่า อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
พ.ศ. 2514 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวง
พ.ศ. 2515 เป็นกรรมวาจาจารย์
พ.ศ. 2532 หัวหน้าสำนักฯ และสร้างวัดห้วยทรายใต้
พ.ศ. 2537 สำเร็จหลักสูตร การบริหารทั่วไป และการสอนพระปริยัติธรรมตามโครงการถวายความรู้พระสงฆ์ ของคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบุรี และสถาบันราชภัฏเพชรบุรี
พ.ศ. 2539 สอบได้นักธรรมเอก จากสำนักเรียนวัดเขาทะโมน
เจ้าอาวาสวัดห้วยทรายใต้
พ.ศ. 2540 เจ้าคณะตำบลชะอำ
พ.ศ. 2543 รับสมณศักดิ์ พระครูฌานวัชราภรณ์
พ.ศ. 2544 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. 2548 เจ้าคณะอำเภอชะอำ

           สาเหตุที่มาเป็นเจ้าอาวาส วัดห้วยทรายใต้ วันที่ 6 กรกฏาคม 2532 ได้มีชาวบ้านห้วยทรายใต้ และคณะกรรมการวัดพิจารณาว่าวัดไม่มี ผู้ปกครองดูแล ไม่มีผู้นำทางที่พึ่งทางจิตใจ บรรดาชาวบ้านจึงพร้อมใจกันไปกราบอาราธนา พระห่วย จกฺกวโร รองเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวงซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต อดีตเจ้าอาวาสวัดโตนดหลวง คนส่วนใหญ่ในเขตจังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียงจะรู้จักดีโดยเฉพาะนักนิยมวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต ท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกแจกจ่ายให้แล้ว จะเก็บรักษาและห่วงแหนเพราะมีอานุภาพต่าง ๆ ปรากฏแก่ผู้เคารพเลื่อมใสศรัทธานำวัตถุมงคลของพระคุณท่านติดตัวและมีไว้ในบ้านเรือน หลวงพ่อทองสุข ท่านยังเป็นพระหมอที่รักษาโรคร้ายต่าง ๆ ที่มีตัวและไม่มีตัว (โรคที่ไม่มีตัวคือโรคที่เกิดจากเวทย์มนต์คาถา เช่น ถูกเสน่ห์ ยาแฝด และผีเข้าเจ้าทำ เป็นต้น) และหลวงพ่อทองสุข ยังมีความเชี่ยวชาญ ในทางสมถวิปัสสนากรรมฐาน มีทั้งบรรชิต และคฤหัสถ์มากมายได้มาขอสมัครตัว เป็นศิษย์ของท่าน
           โบราณท่านกล่าวไว้ว่า "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" หรือ "เชื่อไม่ทิ้งแถว" ซึ่งเป็นความจริงตามที่คนโบราณท่านว่าไว้ เพราะหลวงพ่อวัดห้วยทรายใต้องค์ปัจจุบัน คือ  พระครูฌานวัชราภรณ์ (หลวงพ่อห่วย จกฺกวโร) ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาการด้านต่าง ๆ จากการเรียนรู้ จากประสบการณ์ การกระทำจากหลวงพ่อทองสุข อินฺทโชโต  ได้ดีพอสมควรจนชาวบ้านทั่วไปมักพากันพูดสรรเสริญว่าหลวงพ่อห่วยเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อทองสุของค์หนึ่ง
           หลังจากที่หลวงพ่อห่วยท่านได้รับอาราธนาจากชาวบ้าน และคณะกรรมการวัดห้วยทรายใต้ ท่านมิอาจขัดศรัทธาได้ และอีกประการหนึ่ง ท่านเป็นผู้รู้อุปการคุณของผู้มีพระคุณ กล่าวคือเมื่อหลายปีก่อน หลวงพ่อห่วยท่านได้นำโยมมารดาของท่านมาให้หลวงพ่อโต จุนฺโทรักษาโรคตาและจากการที่ได้คลุกคลีอยู่ร่วมเสนาสนะกับหลวงพ่อโต ทำให้หลวงพ่อโตเกิดความนิยมชื่นชมในอัธยาศัยไมตรี และการประพฤติปฏิบัติในศีลาจารวัตร หลวงพ่อโตท่านได้กล่าวชักชวนให้หลวงพ่อห่วยมาอยู่ด้วยกัน ประกอบกับตอนนั้นหลวงพ่อห่วยยังมีภารกิจในทางสำนักวัดโตนดหลวงอยู่ ท่านจึงได้พูดอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนว่า "กระผมไม่มีความสามารถและยังไม่พร้อม"
           ต่อมาหลวงพ่อโตท่านได้อาพาธอย่างหนักใกล้จะมรณภาพ ท่านเรียกกรรมการวัดที่ไปพยาบาลท่านมาใกล้เตียงท่าน หลวงพ่อโตท่านได้กล่าวกับกรรมการวัดว่า "เมื่อฉันตายแล้วขอให้ไปนิมนต์หลวงพ่อห่วยมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านเราให้ได้เพราะฉันเชื่อว่าท่านองค์นี้จะเป็นผู้นำทางศาสนาและทำให้วัดเจริญรุ่งเรืองได้ดี อย่าลืม.. ต้องนิมนต์ท่านมาให้ได้" กล่าวจบหลวงพ่อโตท่านมีสีหน้าสดชื่นและรอยยิ้มปรากฏ แต่ดวงตาของท่านค่อย ๆ หรี่ลงเหมือนคนนอนหลับอย่างมีความสุข เป็นความสุขชั่วนิรันดร์ หลวงพ่อโตท่านสู่สุคติภพแล้ว หากญาณวิถีแห่งจิตของหลวงพ่อโตท่านสามารถรับรู้ได้ในปัจจุบันนี้ ท่านคงจะต้องกล่าวด้วยปิติโสมนัสว่า "สาธุ" แน่แท้

ไม่มีความคิดเห็น: