18/3/57

ประวัติหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว จ. เพชรบุรี


ประวัติหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว จ. เพชรบุรี
หลวงพ่ออบ อินทวิริโย เป็นชาวบ้านหนองช้างปลัก ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เกิดปีระกา ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พุทธศักราช ๒๔๕๒ นามบิดา ผึ่ง กลีบจงกล นามมารดา เพี้ยน กลีบจงกล มีพี่น้องร่วมกัน ๖ คน หลวงพ่ออบเป็นคนหัวปี หลวงพ่ออบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ อุโบสถวัดถ้ำแก้ว มีพระอุปฌายย์ คือหลวงพ่อทิม วัดโคก หลวงพ่อเช้า วัดเวียงคอย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่ออยู่ วัดถ้ำแก้วเป็นพระนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่ออบก็จำพรรษาอยู่วัดถ้ำแก้ว ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธคมกับหลวงพ่ออยู่ ด้วยความพากเพียรเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา จากนั้นจึงเดินออกธุดงค์อยู่ทุกปี ร่ำเรียนวิชากับพระอาจารย์ต่าง ๆ คือ อาจารย์วัดลาดบัวขาว จังหวัดปราจีนบุรี หลวงปู่นาค วัดหัวหิน อาจารย์อยู่ อาจารย์หยอย เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว และปู่แสง(โยมพระอาจารย์หยอดญ)ซึ่งเป็นฆราวาสถือศีบกินเพล ซึ่งเรืองวิทยาคมและมีชื่อเสียงดังมากในจังหวีดเพชรบุรีสมัยนั้น วัตถุมงคลที่ท่านทำนั้น มี ตระกรุด ผ้ายันต์ เหรียญมี ๓ รุ่น
หลวงพ่ออบ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เมืองเพชรบุรีที่มีวิทยาคมเก่งกล้าด้านคงกระพันชาตรี จากประวัติคำบอกเล่ามีว่า...ครั้งหนึ่งมีคนบ้าถือมีดพร้าเข้ามาฟันท่านในวัด เสียงดัง บึกๆ แต่ไม่ระคายผิวท่านเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสอดคล้องกับที่หลวงพ่อแดงเคยบอกผู้ที่ไปกราบท่านว่า"ถ้าจะเอาเหนียว ต้องไปหาท่านอบ วัดถ้ำแก้ว" หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว พระเถระที่ประพฤติปฏิบัติ ดี ตามพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากการมรณภาพของท่าน ที่มี ผู้รู้มั่งไม่รู้มั่งนำไปพูดจาไม่ดี ทำให้หลวงพ่ออบ ท่านเงียบหายไปกับสายลม นั่นคือท่านมรณภาพด้วยการที่ซุงบนรถบรรทุก หล่นลงมาทับร่างของท่านจนถึงแก่มรณะภาพ ทั้งนี้เนื่องมาจากโซ่ที่ใช้รัดซุงดังกล่าวขาด แต่ที่น่าแปลกคือ ก่อนเกิดเหตุนั้น ท่านได้บอกกับคนอื่นที่ต้องไปช่วยงานท่านในการตีตราซุงเหล่านั้นให้หลบออกไป จากบริเวณดังกล่าวให้หมด รวมทั้งภายหลังที่เกิดเหตุแล้ว เมื่อไปพบร่างท่าน ปรากฏว่า ร่างกายท่านแทบไม่มีเลือดออกเลย มีเพียงเลือดเล็กน้อย ที่บริเวณปากท่านเท่านั้น นี่เองที่ทำให้พวกปากไม่ดีนำไปพูดว่า ขนาดท่านยังมรณภาพแบบนี้เลย แล้วพระท่านจะดีได้อย่างไร รวมทั้งผู้ที่ใช้ก็อาจจะตายไม่ดีเช่นนี้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นคำพูดที่ผิดอย่างมาก รวมทั้งเป็นคำพูดของคนที่เต็มไปอวิชชาแท้ๆ
อย่าลืมว่า ในอดีตยุคพุทธกาลนั้น พระสาวกที่ทรงด้วยอิทธิฤทธิ์ เช่น พระโมคคัลานะ ก็มรณภาพด้วยการถูกตีจากกลุ่มโจร ก่อนที่ท่านจะเข้าสู่นิพพาน และจากกรณีที่เครื่องบินตก แล้วมีพระเถราจารย์ มรณภาพ อาทิเช่น พระอาจารย์วัน , พระอาจารย์จวน เป็นต้นนั้น เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ท่านเป็นผู้บรรลุธรรมชั้นสูงทั้งนั้น นั่นคือ อัฐิของท่านเหล่านี้ ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุไปจนหมด ดังนั้น จึงไม่อยากให้มองข้ามของดีๆไป
หลวงพ่อ แดง วัดเขาบันไดอิฐ พระเกจิอาจารย์ผู้ลือนามแห่ง จ.เพชรบุรี ท่านได้กล่าวไว้ว่า "หากฉันตายให้ไปหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เขาสามารถแทนฉันได้ " นี่เป็นคำกล่าวยืนยันจากหลวงพ่อแดงท่านได้กล่าวไว้
ปัจจุบันเหรียญของท่านหาค่อนข้างยากแล้วมีประสบการณ์ดี
เหรียญหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว จ.เพชรบุรี รุ่นแรก ที่ได้พิจาราณากันอยู่นี้น่าจะเป็นเหรียญเนื้อสำริด เนื่องมาจากมีความดำของเหรียญเป็นหลักซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่เคยเห็นมาจะมีเนื้อทองแดงผสมอยู่ ซึ่งเคยเห็นและเคยถามผู้รู้ท่านบอกว่าถ้าเป็นเหรียญหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแถ้ว เนื้อสำริดต้องออกเป็นสีดำไม่มีส่วนผสมของทองแดงผสมอยู่ตามที่เคยอ่านเจอในหนังสือมาครับ ส่วนพุทธคุณไม่ต้องบรรยายครับสุดยอดจริง ๆ
สำหรับคนฟังที่อยากได้หลวงพ่อแดงขึ้นมาบ้างในใจ จะเชื่อไหมถ้าหลวงพ่อแดงปรารภประโยคหนึ่งกับคุณจาตุรนต์ สิงหะ ซึ่งเป็นเหลนของท่านว่า“หลวงพ่ออบวัดถ้ำแก้วเขาขลังไม่ใช่เล่นนะ ต่อไปเขาจะแทนฉัน”
อาศัยที่หลวงพ่ออบไปกราบเยี่ยมหลวงพ่อแดงบ่อยมาก
 นับแต่สมัยที่หลวงพ่อแดงยังไม่ระบือชื่อเช่นทุกวันนี้ เชื่อว่าท่านคงเคยพูดคุยแลกเปลี่ยนวิชาขลังกันบ้างล่ะ และหลวงพ่อแดงต้องได้ทดสอบขลังจากหลวงพ่ออบจนเห็นจริง มิฉะนั้นคำกล่าวที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้คงไม่ออกจากปากพระระดับนั้นได้ถึงขั้นให้ขึ้นแทนแล้วกัน
เพราะข่าวขลังดังนี้
 ส่งผลให้คนศรัทธาหลวงพ่อแดงเริ่มเข้าหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว โดยสมัครใจ ครั้นไปบ่อยก็ได้เห็นอภินิหารในท่านมากครั้ง เรื่องของหลวงพ่อจึงถูกเผยแพร่จากปากต่อปากจนที่สุดก็ออกสื่อ ดังแล้ววัตถุมงคลก็ตามมา เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออบจึงถือกำเนิดขึ้นโดยศิษย์ แม้มิใช่วัดถ้ำแก้วสร้างเอง แต่เจตนาและมวลสารที่ดียิ่งทำให้เหรียญนี้เป็นที่น่าศรัทธานัก เฉพาะเมื่อคนเสกคือท่าน
เหรียญรุ่นแรกถูกสร้างขึ้นในวันเสาร์
 5 เดือน 5 ขึ้น 5 ค่ำ โดยสรรหาเนื้อพระพุทธรูปเก่าโบราณทุกยุคสมัย ซึ่งเป็นพระแท้ที่ชำรุดทั้งสิ้น มีทั้งเชียงแสน สุโขทัย ทวาราวดี อู่ทอง และ รัตนโกสินทร์เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่ออบ เนื้อนวโลหะ ปี 2516 (ด้านหน้า) ยังมีพระกรุต่าง ๆ อีกมากโดยเฉพาะพระเนื้อชินที่หัก บิ่น กะเทาะอีกหลายร้อยองค์ ตะกรุดเก่าหลายพระอาจารย์ทั้งที่ทราบสำนักและไม่ทราบ ทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงินเนื้อนาค เนื้อทองเหลือง เนื้อทองแดง และเนื้อตะกั่ว จำนวนนับพัน ๆ ดอก ที่สำคัญมีตะกรุดชินตะกั่วของวัดพระแก้วรวมอยู่ด้วยยังปรากฏชนวนพระกริ่งในสายวัดสุทัศน์ฯ หลายรุ่น ชนวนพระกริ่งจากสำนักต่าง  ซึ่งทางวัดมิได้บันทึกไว้หลายสิบพิธี ห่วงจากเหรียญพระคณาจารย์เจ้าทั้งเก่าใหม่หลายพันห่วง และได้หาเหล็กอาถรรพณ์มาหลอมด้วยดังนี้ เหล็กขอช้างโบราณ เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กยอดนภศูลเหล็กราวเทียนเก่า ลูกสะกดเก่าหลายเนื้อ เช่น ปรอท ทองแดง ตะกั่ว ฯลฯนอกจากนั้นยังพยายามเสาะหาโลหะทั้ง 9 ประการมาหลอมร่วมเพื่อความสมบูรณ์แห่งเนื้อหาอันประกอบด้วย ชิน เจ้าน้ำเงิน เหล็กละลายตัว บริสุทธิ์ ปรอท สังกะสี ทองแดง
เงิน และทองคำที่สำคัญยิ่งคือ หลวงพ่ออบได้วิริยะอุตสาหะจารอักขระเลขยันต์ตามตำราโบราณประจำวัดถ้ำแก้ว ซึ่งหลวงพ่ออยู่ และหลวงพ่อหยอยสองพระบุรพาจารย์เมตตาถ่ายทอดให้ลงในแผ่นทองอีกนับร้อย ๆ แผ่นซึ่งถือได้ว่านี่คือเนื้อหาหลักของเหรียญนี้อย่างแท้จริง
เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่ออบ เนื้อนวโลหะ ปี 2516 (ด้านหลัง)
เมื่อได้มวลสารศักดิ์สิทธิ์วิเศษสุดครบครัน
 ก็นำชนวนทั้งหมดไปยังโรงหล่อ ดำเนินการหลอมเป็นแท่งแล้วรีดเป็นแผ่น ป้อนเข้าสู่เครื่องปั๊มตามกำหนดเวลาอันเป็นอุดมมงคลยิ่งคือ วันเสาร์ 5 ตรงกับวันเสาร์ที่ 7เมษายน พ.ศ.2516 ซึ่งโบราณาจารย์ถือเป็นวันเสาร์ 5 ตัวผู้ที่แข็งนักการปั๊มเหรียญมีความพิถีพิถันมาก เพราะเมื่อหลอมโลหะธาตุอันวิเศษเข้าด้วยกันแล้วได้น้ำทองมีน้ำหนักทั้งสิ้น 50 กิโลกรัม คณะกรรมการสั่งให้ตักเนื้อชนวนล้วน ๆ นี้ออกมาราว 8 กิโลกรัม นำไปรีดแล้วปั๊มเป็นเหรียญที่เรียกกันว่า เนื้อสัมฤทธิ์ ได้จำนวน 200 เหรียญเนื้อชนวนหลอมเหลวที่เหลือได้นำทองแดงบริสุทธิ์ผสมลงไปอีกประมาณ 20 กิโลกรัม
แล้วปั๊มเป็นเหรียญที่กรรมการเรียกกันว่า
 เนื้อนวโลหะ ได้จำนวนทั้งสิ้น7,587 เหรียญดังนั้น เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออบจึงมีจำนวนสุทธิ 7,787 เหรียญแต่ก่อนที่จะดำเนินการปั๊มเหรียญโลหะผสมนี้ คณะกรรมการได้ทำการปั๊มเหรียญทองคำ 3 เหรียญ และ เหรียญเงิน 9 เหรียญ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่คณะกรรมการที่ได้ร่วมกันเหน็ดเหนื่อยเพื่อการกุศลวาระนี้น่าชื่นชมที่คณะกรรมการเอาจริงเอาจังมากเพราะการพิมพ์เหรียญที่โรงงานนั้น กรรมการนั่งเฝ้ากันชนิดไม่ให้คลาดสายตาจึงประกันได้ว่าไม่มีการตกหล่นเป็นเหรียญนอกพิธี ที่สำคัญเหรียญรุ่นนี้จำนวนไม่มากบล็อคจึงมีเพียงหนึ่งเดียวและได้ทำลายลงต่อหน้าหลวงพ่ออย่างชัดเจน เรื่องการเสริมจึงหมดห่วงไปได้เลย
ดังกล่าวแล้วว่าเหรียญรุ่นแรกนี้ถือกำเนิดในฤกษ์เสาร์ 5 คือปั๊มกันในวันเสาร์ 5 ตอนกลางวันนั้นเลย เมื่อปั๊มเสร็จก็รีบขนเหรียญเดินทางขึ้นวัดถ้ำแก้วในวันเดียวกันและได้มอบถวายแก่หลวงพ่ออบ ซึ่งท่านก็นำเหรียญเข้าในพระอุโบสถ มหาอุด อายุหลายร้อยปีของวัด ซึ่งท่านได้ตระเตรียมสถานที่ไว้ก่อนแล้ว จากนั้นทำการปลุกเสกแบบบินเดี่ยวตลอดคืนวันเสาร์ 5 นั้นเลยทีเดียว
หลวงพ่ออบขณะประพรมน้ำพระพุทธมนต์หลังปลุกเสกเหรียญแล้วเสร็จตลอดไตรมาส ในโบสถ์มหาอุด
คำว่าโบสถ์มหาอุดหลายท่านอาจสงสัย คำนี้หมายถึงโบสถ์แห่งใดที่มีเพียงประตูคู่ซึ่งอยู่หน้าพระประธาน แต่ด้านหลังพระประธานเป็นผนังตันไม่มีช่องประตูใด  ลักษณะนี้แลที่เรียกพระอุโบสถหลังนั้นว่า โบสถ์มหาอุด 
แหละโบราณาจารย์ผู้ชาญพระเวทย์เชื่อกันว่าหากทำการปลุกเสกวัตถุมงคลใด  ในโบสถ์ที่มีลักษณะดังกล่าว ย่อมส่งผลให้เครื่องมงคลนั้น ๆ สูงส่งพลานุภาพทาง อยู่ยงคงกระพันและเป็นมหาอุดหยุดปืนไฟ หน้าไม้ แลศาสตราวุธทั้งปวงได้ชะงัดนักจึงไม่ควรแปลกใจเลยที่เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออบจะมีประสบการณ์ขลังทางคงกระพันชาตรี ยิงไม่ออก ยิงไม่ถูก ยิงไม่เข้า อยู่เป็นประจำจนกลายเป็น โลโก้ ของเหรียญไปแล้ว
ใช่เพียงหลวงพ่อจะเสกเหรียญในคืนแข็งเสาร์
 5 เท่านั้น หากท่านยังเข้าที่เสกต่อไปกระทั่งลุพรรษาปี พ.ศ.2516 ล่วงเลยจนออกพรรษาอีก 1ไตรมาส มั่นใจเป็นที่สุดแล้วจึงนำออกให้สาธุชนบูชาเพื่อบูรณะปฏิสังขรณ์วัดถ้ำแก้วซึ่งทรุดโทรมลงตามกาล ด้วยอัตราเหรียญสัมฤทธิ์ 300 บาท และเหรียญ นวโลหะ 25 บาท ออกให้บูชาไม่ถึง 3เดือนหมดพรึ่บไปจากวัด หนำซ้ำจากสัมฤทธิ์ 300 บาท พุ่งพรวดเป็น1,500 บาท และนวโลหะ 25 บาท เป็น 300 บาทนั่นคือความตื่นตัวของคนปี 16ยังสงสัยอะไรไหมหลวงพ่อเป็นพระแท้ พระดี และพระเก่ง อย่าสงสัยในมรณกาลของท่านที่อาจแปลกไปจากพระหลายรูป แต่ไม่แปลกไปจากคนหลายคน ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ วิธีการตายก็เป็นเรื่องธรรมชาติ… ธรรมชาติของกรรมที่เป็นตัวกำหนดทุกสิ่งความตายมิใช่ตัวกำหนดคุณธรรมหลวงพ่อเป็นพระที่อยู่เพื่อคนอื่นตลอดมา ท่านเป็นหมอยาสำหรับคนไข้ เป็นหมอธรรม2สำหรับคนถูกผีเข้าเจ้าสิงคุณไสยนานา เป็นพ่อแม่ที่นั่งรับฟังความทุกข์ใจของคนทุกผู้ที่ศรัทธาท่าน เป็นคนอาบน้ำมนต์รดกาย วาจา ใจ ที่ร้อนรุ่มให้เย็นลงมีแต่ ให้ กับ ช่วยผลที่สุดเมื่อท่านละสังขาร สิ่งที่ได้รับจากโลกนี้สำหรับท่านคือการถูกลืม ลืมเพราะกาลเวลายังพอทำเนา ลืมเพราะจงใจยิ่งร้ายใหญ่ เหตุเพราะการมรณะที่ไม่น่าศรัทธาถึงวันนี้ใครหลายคนจะลืมชื่อ หลวงพ่ออบ อินทวิริโย แต่เครื่องมงคลของท่านไม่เคยลืมภาระที่จะคุ้มครองคนแขวนผู้เลื่อมใส พระของท่านยังทำหน้าที่ต่อจากท่านไปอีกนานแสนนาน และใครหลายคนที่คิดถึงท่าน ท่านก็คงคิดถึงเขาเช่นกัน

เป็นเหรียญรุ่นแรก เท่าที่ศึกษาเขาว่ามี 1) ทองคำ 3 2) เงิน 9 3) สัมฤทธิ์1000 (จะไม่รอยบล็อคแตก) 4) โลหะผสม 4800 (มีรอยบล็อคแตก) 5)ไม่มีเนื้อทองแดง 6) ตอนนี้รุ่นแรกเสริม (เก๊)กำลังออกมามาก หน้าจะยุบกว่าด้านหลังจะไม่มีเนื้อเกินใต้ห่วงเหรียญ

ไม่มีความคิดเห็น: